พระธรรมไตรโลกาจารย์ (อยู่) เป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสรูปที่ ๑๑ ครองวัดอยู่ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๔-๒๔๗๖ รวม ๒๓ ปี
ชาติภูมิและการศึกษาเบื้องต้น
พระธรรมไตรโลกาจารย์ (อยู่) เกิดในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ ธันวาคม ปีฉลู พ.ศ. ๒๔๒๐ ที่บ้านบางศรีทอง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ศึกษาอักขรสมัยในสำนักพระปลัดรอด วัดอนงคารามบ้าง ในสำนักพระพี่ชายที่วัดตลิ่งชันบ้าง และในสำนักหลวงธรรมปรีชา (ม่วง)บ้าง ยังไม่ทันจะได้รับความรู้ เกิดล้มป่วยลงต้องกลับไปอยู่บ้านเดิม และเรียนหนังสือในสำนักพระพี่ชายซึ่งไปอยู่วัดท่า เมื่ออายุ ๑๒ ปี เรียนในสำนักอาจารย์ภู่ ซึ่งบอกหนังสืออยู่ที่วัดท่าอีกด้วย ภายหลังนายภู่ไปอุปสมบทอยู่ที่วัดอนงคารามจึงตามไปอยู่ที่วัดนั้นด้วย เมื่ออายุ ๑๔ ปี เรียนมูลกัจจายน์กับพระมงคลเทพมุนี(นวม) เรียนพระคัมภีร์กับพระอาจารย์เทียนบ้าง อาจารย์ดิสบ้างในวัดอนงคาราม
การอุปสมบท
พ.ศ. ๒๔๓๖ บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอนงคาราม
พ.ศ. ๒๔๔๐ อุปสมบทที่วัดอนงคาราม มีสมเด็จพระวันรัตน์ (แดง) วัดสุทัศน์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมธราจารย์ (คุ้ม) วัดอนงคารามเป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฤทธิ์) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมวโรดม วัดบรพิตรพิมุข เป็นพระอนุสาวนาจารย์
การศึกษา
พ.ศ. ๒๔๓๖ บรรพชาเป็นสามเณรแล้วไปศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักพระสาสนโสภณ (อ่อน)ที่วัดพิชยญาติการาม ต่อมา ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ศึกษาในสำนักสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
พ.ศ. ๒๔๓๘ ได้เข้าสอบพระปริยัติธรรมในมหากุฎราชวิทยาลัย ได้ชั้นนักเรียนเอก เทียบเท่ากับเปรียญ ๓ ประโยค
พ.ศ. ๒๔๓๙ เข้าสอบพระปริยัติธรรมได้ชั้นตรีพิเศษอีกครั้ง
พ.ศ. ๒๔๔๐ เมื่ออุปสมบทแล้ว สอบได้ชั้นเปรียญตรี เท่ากับกับเปรียญ ๔ ประโยค
พ.ศ. ๒๔๔๒ สอบได้ชั้นเปรียญโท เทียบเท่ากับเปรียญ ๕ ประโยค
พ.ศ. ๒๔๔๔ เข้าสอบพระปริยัตติธรรมในสนามหลวงที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้เป็นเปรียญ ๖ ประโยค
พ.ศ. ๒๔๔๘ สอบได้เป็นเปรียญเอก ๗ ประโยค และในปลายปีนั้นเองเข้าสอบอีกครั้งหนึ่ง ได้เปรียญเอก ๘ ประโยค
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๔๕๓ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่พระปริยัติบัณฑิตย์ ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และในสัญญาบัตรบ่งตรงว่า เป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส
พ.ศ. ๒๔๖๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชมุนี
พ.ศ. ๒๔๖๖ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพโมลี
พ.ศ. ๒๔๗๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระธรรมไตรโลกาจารย์
การปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๔๕๔ ย้ายจากวัดอนงคารามมาเป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส ต่อมาได้เป็นเจ้าคณะมณฑลพิษณุโลกอีกตำแหน่งหนึ่ง พ.ศ. ๒๔๗๖ พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสและตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลพิษณุโลกเหตุเพราะลาสิกขา
ผลงานสำคัญ
พ.ศ. ๒๔๕๔ เปิดสอนนักธรรมและบาลีที่วัดประยุรวงศาวาส โดยสอนกันเองบ้าง ขอครูมาสอนจากต่างวัดบ้าง ส่งนักเรียนไปเรียนในสำนักอื่นบ้าง เจ้าพระยาภาสวรวงศ์เป็นกำลังอุดหนุนทั้งสถานที่และอุปกรณ์ ตลอดจนบริจาคทรัพย์อุดหนุนกำลังครู การเล่าเรียนก็ค่อยเจริญมาโดยลำดับจนมีภิกษุสามเณรผู้รู้ธรรมและบาลีเข้าสอบได้เป็นนักธรรมและเปรียญมาเป็นครูสอนกันเอง
พ.ศ.๒๔๕๙ ได้รับฉันทานุมัติจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสให้มีคณะพระพิธีธรรมที่วัดประยุรวงศาวาส
พ.ศ. ๒๔๖๑ ซ่อมยอดพระบรมธาตุมหาเจดีย์ที่ถูกสายฟ้าฟาดหักลงมาตั้งแต่ยุคที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่) เป็นเจ้าอาวาส
พ.ศ. ๒๔๗๑ จัดทำและจัดพิมพ์ประวัติวัดประยุรวงศาวาสเป็นครั้งแรก