พระสาสนานุรักษ์(ทิม)เป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสรูปที่ ๘ ครองวัดอยู่ระหว่าง พ.ศ.๒๔๓๖-๒๔๔๑ รวม ๗ ปี
ชาติภูมิและการบรรพชาอุปสมบท
พระสาสนานุรักษ์(ทิม)เป็นชาวบางบำหรุ ธนบุรี เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ตรงกับแรม ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอนักษัตร พ.ศ. ๒๓๘๑ เคยฝากตัวเป็นทนายหรือผู้รับใช้อยู่กับพระยาสุริยศักดิ์มนตรี (แสง ชูโต) แล้วมาอุปสมบทที่วัดประยุรวงศาวาส มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่) เจ้าอาวาสรูปที่ ๓ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านเคยศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักอาจารย์อ่อนและเป็นศิษย์ของพระอาจารย์แก้วด้วย ต่อมาท่านได้อาพาธเป็นโรคปัจจุบันจึงลาสิกขาไปรักษาตัวแล้วกลับมาอุปสมบทใหม่ มีพระธรรมภาณพิลาศ (ผ่อง) เจ้าอาวาสรูปที่ ๕ เป็นพระอุปัชฌาย์
สมณศักดิ์
ในช่วงอุปสมบทครั้งแรก ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูใบฏีกา และเลื่อนเป็นพระครูสังฆสิทธิกร ฐานานุกรมในสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่)หลังจากที่ได้กลับมาอุปสมบทเป็นครั้งที่ ๒ ท่านได้เป็นผู้ดูแลโรงเรียนหนังสือไทย และโรงเรียนบาลีที่เจ้าพระยาภาสกรวงศ์สร้างขึ้น เจ้าพระยาภาสกรวงศ์จึงกราบบังคมทูล ขอให้ดำรงอยู่ในสมณศักดิ์ที่พระครูสังฆสิทธิกรตามเดิม เมื่อปีระกา พ.ศ. ๒๔๒๘ ในปีขาล พ.ศ. ๒๔๓๒ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูสังฆวิสุทธิคุณ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระสาสนานุรักษ์
การปกครองคณะสงฆ์
ในปีขาล พ.ศ. ๒๔๓๒ เมื่อเป็นพระครูสังฆวิสุทธิคุณแล้ว ได้ย้ายจากวัดประยุรวงศาวาสไปเป็นเจ้าอาวาสวัดนวลนรดิศซึ่งท่านผู้หญิงนวล (เจ้าคุณพระราชพันธุ์) และท่านดิศ บุนนาค (สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์)ได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดนวลนรดิศ” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ท่านผู้หญิงนวลและท่านดิศ เมื่อพ.ศ. ๒๔๓๖ ได้ย้ายกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสและได้เป็นพระสาสนานุรักษ์ในปีเดียวกัน
เมื่อพ.ศ. ๒๔๓๙ ในช่วงที่พระสาสนานุรักษ์ (ทิม)เป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น กรรมการผู้จัดการแบ่งทรัพย์มรดกของท่านผู้หญิงพรรณ์ คือ เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ สร้างโรงเรียน ๒ หลัง วางซุ้มประตูวัดไว้ระหว่างกลางสำหรับเชื่อมโรงเรียนทั้งสองหลังเข้าด้วยกัน โดยตั้งอยู่ริมกำแพงหน้าวัดด้านแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ชื่อว่า “พรรณาคาร ร.ศ. ๑๑๕” พร้อมกันนั้นได้สร้างเมรุด้านหน้าภูเขาไว้เป็นที่เผาศพท่านผู้หญิงพรรณ์และอุทิศไว้เป็นที่เผาศพสำหรับประชาชนทั่วไป เจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดีสร้างพระเจดีย์หลังพระอุโบสถองค์หนึ่ง สูง ๓ วาเศษ แล้วสร้างรูปพระอาจารย์แก้ว (ซึ่งเรียกกันว่าท่านขรัวแก้ว) ผู้เป็นอาจารย์ ประดิษฐานไว้ในนั้น พระสาสนานุรักษ์ เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดประยุรวงศาวาสได้ไม่เต็มที่นักเพราะต้องเดินทางไปดูแลวัดนวลนรดิศซึ่งว่างเจ้าอาวาสอีกด้วย ในช่วงที่ไปพำนักอยู่ที่วัดนวลนรดิศนั้น ท่านได้มอบหมายให้พระครูสาราณียคุณ(บุญ)จึงเป็นผู้ปกครองดูแลวัดประยุรวงศาวาสแทนเจ้าอาวาส
พระสาสนานุรักษ์ (ทิม)พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสและไปเป็นเจ้าอาวาสวัดนวลนรดิศเพียงตำแหน่งเดียว เมื่อพระธรรมเจดีย์ (แก้ว)ได้ย้ายจากวัดไชยพฤกษมาลามาเป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส ใน พ.ศ. ๒๔๔๓
มรณภาพ
พระสาสนานุรักษ์ (ทิม) เป็นเจ้าอาวาสวัดนวลนรดิศต่อมาจนถึงมรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ ที่วัดนวลนรดิศ อายุ ๘๘ ปี