พระธรรมเจดีย์(แก้ว)เป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสรูปที่ ๙ ครองวัดอยู่ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๔๓-๒๔๔๘ รวม ๕ ปี
ชาติภูมิ
พระธรรมเจดีย์ นามเดิมว่า แก้ว เป็นชาวจังหวัดจันทบุรี เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อปีขาล จุลศักราช ๑๒๐๔ พ.ศ. ๒๓๘๕ แต่แรกชื่อว่า เก๊า ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อว่าแก้ว เมื่อเข้าแปลพระปริยัติธรรม
การอุปสมบทและการศึกษา
ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ท่านได้รับการอุปสมบทที่วัดโบสถ์ เมืองจันทบุรี เมื่อท่านบวชพระได้ ๔ พรรษาได้เข้ามาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ที่วัดราชบูรณะ ในกรุงเทพ ฯ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสมุห์ ฐานานุกรมของพระศรีสมโพธิ (สิน) ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อพระศรีสมโพธิ (สิน) ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระยาทำ ท่านตามไปอยู่ที่วัดนั้นด้วย ท่านเข้าแปลพระปริยัติธรรมครั้งแรกที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เมื่อปีชวด พ.ศ. ๒๔๑๙ ได้เป็นเปรียญ ๓ ประโยค ต่อมาเข้าแปลที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๒๕ อีกครั้งหนึ่ง ได้อีกประโยค ๑ เป็นเปรียญ ๔ ประโยค
สมณศักดิ์
ในปีระกา พ.ศ. ๒๔๒๘ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชคณะที่พระรัตนมุนี ในปีกุน พ.ศ. ๒๔๔๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชคณะผู้ใหญ่ที่พระราชกระวี มีสำเนาที่ทรงตั้งดังนี้ “ให้เลื่อนพระรัตนมุนี เป็นพระราชกระวี นรสีห์พจน์ปิลันธน์ สถิตย์ ณ วัดไชยพฤกษมาลา พระอารามหลวง มีนิตยภัตรราคา ๔ ตำลึงกึ่ง มีฐานานุศักดิ์ควรตั้งฐานานุกรมได้ ๓ รูป คือ พระครูปลัด ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฎีกา ๑ รวม ๓ รูป” ใน พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพมุนี มีสำเนาที่ทรงตั้งดังนี้ “ให้เลื่อนพระราชกระวี เป็นพระเทพมุนี ศรีวิสุทธิศีลาจารย์ ญาณนายก ติปิฎกธรา มหาคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิตย์ ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร พระอารามหลวง มีนิตยภัตรราคาเดือนละ ๔ ตำลึงกึ่ง มีฐานานุศักดิ์ควรตั้งพระฐานานุกรมได้ ๔ รูป คือ พระครูปลัด ๑ พระครูสังฆวินัย ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฎีกา ๑ รวมเป็น ๔ ” ในปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๔๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระธรรมเจดีย์
การปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๔๔๓-๒๔๔๘ เป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส
พ.ศ.๒๔๔๕ เป็นเจ้าคณะมณฑลนครราชสีมา
พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๔๕๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ
เหตุการณ์ตอนที่พระราชกระวี(แก้ว)ย้ายจากวัดไชยพฤษมาลาไปเป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้รับการบันทึกไว้ในราชกิจจานุเบกษา ดังต่อไปนี้ “ด้วยวัดประยุรวงศาวาส เป็นพระอารามซึ่งเคยมีพระราชาคณะปกครองเป็นเจ้าอาวาส บัดนี้ ไม่มีพระราชาคณะปกครอง ทรงดำริเห็นว่า พระราชกระวี ซึ่งอยู่วัดไชยพฤกษมาลา เป็นผู้สมควรที่จะไปเป็นเจ้าอาวาสได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานอาราธนาพระราชกระวีไปอยู่วัดประยุรวงศาวาส วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๑๙ (พ.ศ. ๒๔๔๓) เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ ๗ รูป เจริญพระพุทธมนต์ที่กุฎิวัดประยุรวงศาวาส ซึ่งพระราชกระวีจะไปอยู่ที่นั่น รุ่งขึ้นวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน เวลาเช้า พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์เมื่อวานนี้รับพระราชทานฉันและรับสิ่งของเครื่องไทยธรรมของหลวงตามสมควร เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้จัดเรือกลไฟไปรับพระราชกระวี ที่วัดไชยพฤกษมาลาแล้ว จัดเป็นกระบวนแห่แต่วัดไชยพฤกษมาลา กระบวนแห่เรือกลไฟสำหรับเครื่องพิณพาทย์ กลองแขก ๑ ลำ เรือกลไฟสำหรับพระพุทธรูปและพระราชกระวี ฐานา ๒ เปรียญ ๑ อันดับ ๔ รวม ๘ รูป ๑ ลำ และมีเรือพวกญาติของพระสงฆ์และราษฎรช่วยแห่ด้วยเป็นอันมาก เมื่อจัดกระบวนแห่แล้ว เดินกระบวนแห่แต่วัดไชยพฤกษมาลา ไปตามคลองบางกอกน้อย ออกแม่น้ำเจ้าพระยาล่องไปตามลำน้ำ ถึงวัดประยุรวงศาวาส พระราชกระวีและฐานา ๒ เปรียญ ๑ พระอันดับ ๔ รวม ๘ รูป ขึ้นกุฎิวัดประยุรวงศาวาส ส่วนสิ่งของเครื่องบริขารขึ้นกุฎินั้น ได้โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพนักงานนิมนต์พระราชกระวีและฐานาเปรียญพระอันดับมารับพระราชทานไตรและเครื่องบริขารขึ้นกุฎิที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๑๙ (พ.ศ. ๒๔๔๓) ในเวลาเลี้ยงพระในการพระราชพิธีฉัตรมงคลก่อนแล้ว”
การบริหารการศึกษาหัวเมือง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จพระราชดำเนินกลับจากยุโรปแล้วไม่นาน ก็ทรงเริ่มงานจัดการศึกษาเล่าเรียนในหัวเมืองทั่วพระราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก และในการจัดการศึกษาในหัวเมืองครั้งนี้ ได้ทรงอาราธนาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ให้ทรงรับภาระหน้าที่จัดการอำนวยการการศึกษาฝ่ายสงฆ์ ในการนี้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า ฯ ได้ทรงคัดเลือกพระเถรานุเถระผู้มีความสามารถขึ้นทูลเกล้า ฯ เพื่อทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการการศึกษาหัวเมือง ๑๔ รูป และรัชกาลที่ ๕ ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งตามที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า ฯ ทรงเสนอ ปรากฏว่าได้ทรงแต่งตั้งพระธรรมเจดีย์(แก้ว)ขณะป็นพระราชกระวีเป็นผู้อำนวยการมณฑลนครราชสีมาด้วยรูปหนึ่ง และเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ พ.ศ.๒๔๔๕ ก็โปรดให้พระธรรมเจดีย์(แก้ว)ขณะเป็นพระเทพมุนี ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลนครราชสีมาด้วย
งานสาธารณูปการสำคัญ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชการที่ ๕ เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในการทอดผ้าพระกฐินที่วัดประยุรวงศาวาสเมื่อ ร.ศ. ๑๒๐ พ.ศ. ๒๔๔๔ พระธรรมเจดีย์ (แก้ว)ได้สร้างสะพานท่าน้ำหน้าวัดขึ้นหลังหนึ่งเป็นกรณีพิเศษเพื่อรับเสด็จฯและได้บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ
มรณภาพ
พระธรรมเจดีย์ (แก้ว) อาพาธเป็นโรคริดสีดวง ถึงมรณภาพที่วัดพระเชตุพนฯในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันพุธ เดือน ๑๑ แรม ๔ ค่ำ ปีวอก ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๔ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๗ พ.ศ. ๒๔๕๑ รวมอายุได้ ๗๖ ปี