พระวิหารพระพุทธนาค เอกสถานในเขตพุทธาวาส
พระวิหารพระพุทธนาคเป็นอีกหนึ่งอาคารสำคัญที่ตั้งอยู่เคียงคู่กับพระอุโบสถ ในเขตพุทธาวาสทางด้านทิศตะวันออก พระวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนาพระอาราม เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๑ เช่นกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของวัด
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพระวิหารพระพุทธนาคนั้นเป็นอาคารไทยประเพณี และมีรูปแบบศิลปะพระราชนิยมเช่นเดียวกับพระอุโบสถ มีปีกนกซ้ายขวาคลุมระเบียงด้านข้างและมีพาไลล้อมรอบโดยมีขนาด ๕ ห้อง วัดฐานรวมทั้งพาไลด้านยาว ๙ วา ๒ ศอก (๑๙ เมตร) ด้านกว้าง ๙ วา (๑๘ เมตร) มีด้านสกัดอยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ ด้านหน้าและด้านหลังมีประตูทางเข้า - ออก ด้านละ ๒ประตูด้านนอกประดับมุกสวยงาม หลังบานประตูเขียนลายรูปสัตว์และพันธุ์ไม้แบบจีน หน้าต่างด้านละ ๕ ช่อง หน้าบานหน้าต่างประดับลายแก้วชิงดวงหลังบานหน้าต่างเขียนลายรูปสัตว์และพันธุ์ไม้แบบจีนเช่นเดียวกับบานประตู มีซุ้มยอดปรางค์ที่มุมพระวิหารทั้ง ๔ ทิศ ภายในซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ และมีเสาหินคู่หนึ่งอยู่ด้านหน้าพระวิหารพระพุทธนาค เป็นเสาหินที่ย้ายมาจากพรินทรปริยัติธรรมศาลา
ในส่วนของหลังคาพระวิหารพระพุทธนาค เป็นหลังคาทรงไทยมีชั้นลด ๒ ชั้น หางหงส์เป็นนาคเบือน มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียวเหลืองและแดง หน้าบันพระวิหารพระพุทธนาค แกะสลักลายดอกพุดตานประดับกระจกแบบลงยาสีสวยสดงดงาม มีหลักฐานแต่เดิมด้านหน้าพระวิหารพระพุทธนาคมีเสาธงใหญ่คู่หนึ่ง ตัวเสาทำด้วยไม้กันเกราสูงราว ๑๘ เมตร ฐานก่อปูนสูงเพียงสะเอว สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ) สร้างไว้สำหรับชักธงในคราวรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาทรงถวายผ้าพระกฐินที่วัดประยุรวงศาวาส แต่ภายหลังชำรุดและได้รื้อลง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๘
พระพุทธนาค จากสุโขทัยสู่กรุงรัตนโกสินทร์ ภายในพระวิหารหลวงวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนาค หรือ “หลวงพ่อนาค” พระพุทธปฏิมาปางมารวิชัย หล่อด้วยโลหะนาก ลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง ๘ ศอก ๑๒ นิ้ว (๔.๒๕ เมตร) ไหล่กว้าง ๕ ศอก ๑๖ นิ้ว (๑.๘๓๓ เมตร) สูง ๑๒ ศอกหย่อน ๗ นิ้ว (๕.๖๐๔ เมตร) นับเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามแบบศิลปะสุโขทัยหมวดใหญ่ (บ้างว่าหมวดพระพุทธชินราช) สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐
ลักษณะของพระพุทธนาค เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบพระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบลงต่ำ พระนาสิกงุ้ม พระโอษฐ์แย้ม ขมวดพระเกศารูปก้นหอย พระอุษณีษะหรือพระเกตุมาลาทรงมะนาวตัด พระรัศมีเป็นเปลว พระอังสาใหญ่ บั้นพระองค์เล็ก ครองจีวรห่มเฉียง ชายจีวรยาวจรดพระนาภี ปลายจีวรเป็นลายเขี้ยวตะขาบ (รอยพับซ้อนของผ้า) พระหัตถ์ขวาวางอยู่เหนือพระชงฆ์ พระหัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา มีแนวเส้นขอบจีวรพาดทับสบงที่พระชงฆ์และข้อพระบาททั้งสองข้าง พระพุทธปฏิมาประดิษฐานอยู่เหนือฐานชุกชีย่อเก็จเป็นปัทมาสน์หรือบัวประกอบด้วยชั้นบัวหงาย ๓ ชั้น ฐานสิงห์ ๑ ชั้น และฐานหน้ากระดาน ๑ ชั้น รวม ๕ ชั้น มีผ้าทิพย์ทอดลงมากึ่งกลางด้านหน้าของฐาน ฐานชุกชีตกแต่งลวดลายอย่างวิจิตร เช่น ลายกลีบบัว ลายประจำยาม ลายดอกไม้ ลายกระจังตาอ้อย และลายกรวยเชิงเป็นต้น เป็นรูปแบบศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ที่นิยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
แม้พระพุทธนาคจะมีชื่อเรียกขานมาแต่ดั้งเดิมเมื่อแรกสร้างพระอาราม แต่กลับไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าได้มีการอัญเชิญพระพุทธนาคมาประดิษฐาน ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหารเมื่อใด แต่มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ได้อัญเชิญมาจากเมืองสุโขทัย เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธรูปต่างๆ จากหัวเมืองเหนือจำนวน ๑,๒๔๘ องค์มาประดิษฐานที่วัดโพธิ์ (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม) เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๒
ส่วนอีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ) ได้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาองค์นี้มาจากเมืองสุโขทัยโดยชะลอลงแพมาตามลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อปีเถาะ พ.ศ. ๒๓๗๔ ยังมีการสันนิษฐานอีกด้วยว่า พระพุทธนาคน่าจะสร้างเป็นคู่กับพระศรีศากยมุนี ที่ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวราราม ด้วยพระพุทธปฏิมาทั้ง ๒ องค์นี้ ประกอบด้วยพุทธลักษณะแบบศิลปะสุโขทัยหมวดใหญ่ คือ มีพระรัศมีเปลวแต่ไม่มีไรพระศก ชายผ้าสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ และประทับนั่งขัดสมาธิราบเช่นเดียวกัน
พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กล่าวว่า แต่เดิมชื่อของพระพุทธนาค ที่ปรากฏในหนังสือเก่ามีชื่อเรียกว่าพระพุทธนาคน้อย คู่กันกับพระพุทธนาคใหญ่ หรือ พระศรีศากยมุนี แต่ต่อมาเนื่องจากพระพุทธนาคใหญ่ได้รับชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธนาคน้อย ในวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารในปัจจุบันจึงเรียกกันแต่เพียง พระพุทธนาค เท่านั้น
ภาพ
ในหลักฐานที่กล่าวถึงเรื่องราวในลักษณะดังกล่าว ปรากฏอยู่ในหนังสือ พระประวัติพระพุทธนาคน้อย ตามคำบอกเล่าให้บันทึกของ หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นของขวัญอนุโมทนาเครื่องปฏิการคุณ แด่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคกัปปิยภัณฑ์ สมทบทุนปฏิสังขรณ์พระวรวิหารพระพุทธนาคน้อยเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ในความตอนหนึ่งระบุว่า
“ตามทางสันนิษฐานที่มีเหตุผลควรเชื่อถือได้ ว่าน่าจะเป็นคู่กันกับพระศรีศากยมุนี ที่เรียกพระนามเป็นที่รู้จักกันอย่างสามัญว่า ‘พระพุทธนาคใหญ่’ อันประดิษฐานอยู่ในพระมหาวิหาร วัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงอัญเชิญลงมาจากจังหวัดสุโขทัยเช่นเดียวกันเพราะเป็นพระพุทธรูปสมัยเดียวกัน ฝีมือหล่อเหมือนกัน จากจังหวัดเดียวกัน และคงอัญเชิญลงมาพร้อมกัน”
นอกเหนือจากตำนานประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อนาคแล้ว ยังมีเรื่องเล่าต่อกันมาถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์นี้ว่าเมื่อครั้งที่วัดได้รับความเสียหายจากระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทั้งพาไลและผนังพระวิหารพระพุทธนาคถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย หลังคาพังลงมาสิ่งของต่างๆ ในพระวิหารพระพุทธนาคได้รับความเสียหายทั้งหมด หากแต่องค์พระพุทธนาคกลับไม่ได้รับอันตรายเป็นที่น่าอัศจรรย์ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้กำหนดให้พระพุทธนาคอยู่ในบัญชีโบราณวัตถุสถานทั้งหลายที่มีอยู่ในประเทศไทย เช่นเดียวกับพระพุทธธรรมวิเชษฐศาสดา
พระเครื่องบูชาหลวงพ่อพระพุทธนาค
#ข้อมูลจากหนังสือ ๑๙๐ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เล่ม ๑ #ข้อมูลภาพจริงในพระวิหาร วัดประยุรวงศาวาส
วัดประยุรวงศาวาส >>>6 ไฮไลต์ที่ต้องปักหมุดเที่ยว (ตามรอยบุพเพสันนิวาส ตอนที่ ๑) >>>บุพเพสันนิวาส ๒” ที่เปิดตัวแรงสุด ๆ (ตามรอยบุพเพสันนิวาส ตอนที่ ๒) >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์'วัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๕ >>>พิธีสมโภชวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ครบ ๑๙๔ ปี >>>พิธีทอดกฐินพระราชทาน วัดประยุรวงศาวาส ประจำปี ๒๕๖๔ >>>ประเพณีลอยกระทงประทีปเทียนหอม วัดประยูรฯ ประจำปี ๒๕๖๔ >>>ขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทงประทีปเทียนหอม วัดประยูรฯ ประจำปี ๒๕๖๓ >>>ขอเชิญร่วมทำบุญกฐินพระราชทานวัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๓ >>>พิธีบำเพ็ญกุศลตักบาตรเทโวโรหณะ วัดประยูรฯ ปี ๒๕๖๓ >>>ร่วมงานแถลงข่าว“River Festival 2020 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย”ครั้งที่ ๖ >>>๕ สมเด็จพระราชาคณะ ร่วมงานสมโภช ๑๙๒ ปี วัดประยูรฯ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๒ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>ขอเชิญร่วมงานส่งท้ายปีเก่า ๒๕๖๒ วิถีไทยต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๓ >>>ขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทง วัดประยูรฯ ประจำปี ๒๕๖๒ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์'วัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๒ >>>สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดอาคาร "สิริภักดีธรรม" >>>ขอเชิญร่วมงานส่งท้ายปีเก่า ๒๕๖๑ วิถีไทยต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๒ วิถีพุทธ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๑ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์'วัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๑ >>>แถลงข่าวการจัดงานสงกรานต์ประจำปี ๒๕๖๑ Water Festival 2018 >>>๓ สมเด็จพระราชาคณะ ร่วมเจริญพระพุทธมนต์งานสมโภชวัดประยูรฯ ๑๙๐ ปี >>>เปิดงานสมโภช ๑๙๐ ปี วัดประยูรฯ อย่างอลังการ สืบสานวัฒนธรรมไทย >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๐ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>งาน"วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ๑๘๙ ปี" >>>ขอเชิญเที่ยวงาน"สมโภช ๑๘๘ ปี วัดประยูรฯ"ปี ๒๕๕๙ >>>สมโภชพระอาราม ๑๘๘ ปี วัดประยูรฯ พ.ศ.๒๕๕๙ >>>๑๕ เมษายน"วันปีใหม่ วันเถลิงศก"วัดประยูรฯ ปี ๒๕๕๘ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์ วัดประยูรฯ ๒๕๕๘ >>>WaterFestival ล่องเรือฟรี ๗ ท่าน้ำ วัดประยูร ฯ ๒๕๕๘ >>>เที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์ วัดประยูรฯ ๒๕๕๘ >>>เที่ยวสงกรานต์ ๒๕๕๘ วัดประยุรวงศาวาส >>>ขอเชิญเที่ยวงานฉลองวัด"ประยูรฯวัดรั้วเหล็ก"๑๘๗ ปี >>>รวมภาพบรรยากาศ งานฉลองรางวัลยูเนสโก ๒๕๕๗ >>>เจดีย์วัดประยุรวงศาวาสฯ มรดกทางวัฒนธรรม >>>เจดีย์มีแกนกลางแบบอยุธยาได้รับรางวัลที่ ๑ จากยูเนสโก >>>"เจดีย์พระประธาน"วัดประยูรฯ ชนะเลิศอนุรักษ์ >>>'เจดีย์พระประธาน' วัดประยูรฯ ชนะเลิศจากยูเนสโก >>>Award of Excellence >>>วัดประยุรวงศาวาสฯ คว้ารางวัล "ยูเนสโก" >>>"วัดประยุรวงศาวาส" ในสายตา UNESCO >>>พระบรมธาตุมหาเจดีย์ วัดประยุรวงศาวาส >>>มส. มอบของยังชีพแก่ผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนจอมทอง