พระพรหมบัณฑิต แสดงพระธรรมเทศนากัณฑ์อุโบสถ เรื่อง 'พลีกถา' ว่าด้วยการบูชาสงเคราะห์ ในงานพิธีเททองหล่อพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ (ตี่จั๊งอ๊วงผ่อสัก) ปี ๒๕๖๖ ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
วัดประยุรวงศาวาส|กิจกรรมงานวัด'๖๖ >>>สวดมนต์ข้ามปี วิถีออนไลน์ ต้อนรับปีใหม่ รับความเป็นสิริมงคล ๒๕๖๖ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๕ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>พิธีบำเพ็ญกุศลงาน ''สมโภชพระอาราม ๑๙๕ ปี วัดประยูรฯ'' >>>พิธีเปิดงาน ''สมโภชพระอาราม ๑๙๕ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร''
[ไตรมาสที่ ๑] คณะสงฆ์|วัดประยูรฯ|พระธรรมเทศนา'๖๖|พระพรหมบัณฑิต >>>กัณฑ์ที่ ๐๑ เรื่อง 'อิสสากถา' ว่าด้วยความอิจฉาริษยา >>>กัณฑ์ที่ ๐๒ เรื่อง 'เมตตากถา' ว่าด้วยความรักและความหวังดี >>>กัณฑ์ที่ ๐๓ เรื่อง 'ปาโมชชกถา' ว่าด้วยความปราโมทย์ >>>กัณฑ์ที่ ๐๔ 'อนุสสติฐานกถา' ว่าด้วยเหตุแห่งอนุสสติ >>>กัณฑ์ที่ ๐๕ 'พลีกถา' ว่าด้วยการบูชาสงเคราะห์
วันอาทิตย์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๓๐ น. พระพรหมบัณฑิต (ป.ธ.๙,ศ.,ดร.,ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์, อัคคมหาบัณฑิต) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (ICDV) ประธานศูนย์พระปริยัตินิเทศก์แห่งคณะสงฆ์ ประธานกรรมการการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประธานสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU) อุปนายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แสดงพระธรรมเทศนากัณฑ์อุโบสถ เรื่อง *****['พลีกถา' ว่าด้วยการบูชาสงเคราะห์] ในงานพิธีเททองหล่อพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ (ตี่จั๊งอ๊วงผ่อสัก) ปี ๒๕๖๖ ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
พระกษิติครรภโพธิสัตว์ หรือ ตี้จั้งผูซ่า ในสำเนียงแต้จิ๋ว ตี่จั่งอ๊วง มาจากพระนามเต็มว่า ตี้จั้งหวางผูซ่า หรือ “ต้าเอวี้ยนตี้จั้งหวางผูซ่า” แปลว่า พระโพธิสัตว์ผู้เป็นครรภ์แห่งแผ่นดินมีความหมายแฝงว่า พระองค์ได้ทรงสถิตอยู่ใต้ผืนพื้นโลกใบนี้ เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือและศรัทธาเป็นอย่างมาก เป็นรองแต่เพียงพระอวโลกิเตศวร (กวนอิม) เท่านั้น สาเหตุที่ทำให้พระกษิติครรภโพธิสัตว์ (ตี้จั้งผูซ่า) เป็นที่นับถืออย่างกว้างขวางนั้น มาจากเรื่องราวของปณิธานของพระองค์ที่มีจารึกไว้ใน “พระสูตรปณิธานแห่งพระกษิติครรภโพธิสัตว์” หรือ “ตี้จั้งผูซ่าเปิ่นเอวี้ยนจิง” ที่ทรงแผ่เมตตาธรรมต่อเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหกในนรกภูมิ พระองค์รู้สึกเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่ไม่อาจช่วยเหลือมิให้สรรพชีวิตหลงเดินในทางผิด จนตกตายไปสู่นรกภูมิเช่นนั้น พระกษิติครรภโพธิสัตว์จึงได้ยินยอมอยู่บนโลกมนุษย์ เพื่อแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เหล่าสัตว์โลกในนรกภูมิ ทรงมีความปรารถนาจะให้แสงแห่งพระธรรมชี้นำทางสว่างให้แก่สัตว์ทั้งปวง
โดยมีมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ว่า “หากตราบใดที่นรกยังไม่ว่างเปล่า ตราบนั้นก็จะไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ” พระมหาปณิธานของท่านย่อมเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า อันสัตว์โลกนั้น คนกระทำความชั่วมีอยู่มากมาย เมื่อตายไปแล้วนรกภูมิก็จะมีจำนวนสัตว์นรกมากยิ่งกว่าผู้ที่ได้ขึ้นสวรรค์ การจะมาช่วยสัตว์นรกที่มีจำนวนมากนี้ จึงเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าความยากใดๆ กล่าวกันว่า พระมหาปณิธานของพระองค์ คล้ายคลึงกับพระอวโลกิเตศวร (กวนอิม) เป็นอย่างมาก ต่างกันตรงที่ พระอวโลกิเตศวร(กวนอิม)ทรงเปี่ยมไปด้วยพระมหาเมตตาด้วยหวังจะช่วยสัตว์โลกผู้ตกทุกข์ได้ยากบนโลกให้ได้หลุดพ้น แต่พระกษิติครรภโพธิสัตว์จะการุณต่อสัตว์ในนรกภูมิให้รอดพ้นจากกองทุกข์ทรมาน ดังนั้น ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาพระองค์จึงทำให้พระกษิติครรภโพธิ์สัตว์เป็นที่ศรัทธาของปวงชน จนเป็นสัญลักษณ์ของพระโพธิสัตว์ผู้มีมหาเมตตามาโปรดแก่สัตว์นรกให้พ้นจากบ่วงกรรม
ดังนั้น ในพิธีศพของชาวจีนที่เรียกกันว่า “พิธีกงเต๊ก” จึงต้องมีรูปประดิษฐานของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะเชื่อกันว่า ด้วยพระมหาเมตตาของพระองค์จะช่วยนำทางแห่งธรรมให้แก่ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต ทำให้ดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องตกขุมนรกอันแสนทุกข์ทรมาน
ในขณะเดียวกัน ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระกษิติครรภโพธิสัตว์นั้นไม่ได้หมายความว่าพระองค์จะโปรดช่วยเฉพาะคนที่ตายไปแล้วเท่านั้น หากแต่พระองค์ย่อมช่วยทั้งคนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ตั่งมั่นอยู่ในความดี และผู้ตายไปแล้วไม่ให้หลงเหลืออยู่ในขุมนรกอีกต่อไป
สัญลักษณ์รูปเคารพขององค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์จะมีอยู่ด้วยกันสองแบบ
แบบแรกเป็นลักษณะของภิกษุหนุ่มที่เพิ่งออกบวช มีศีรษะที่ล้านเลี่ยน ทำให้แลดูมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ อันเปรียบเสมือนดั่งการตัดเรื่องทางโลกโดยสิ้นแล้ว พระหัตถ์ขวามักถือไว้ด้วยไม้เท้าพระธรรม เป็นความหมายว่าได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เป็นสรณะ
ส่วนแบบที่สองนั้นเป็นแบบพระโพธิสัตว์ปางประทับนั่ง สวมหมวกภิกษุจีนที่เรียกว่า “มาลาห้าพุทธะ” พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท่าพระธรรม
ตำนานเกี่ยวกับพระกษิติครรภโพธิสัตว์มีเล่าไว้แตกต่างกัน บ้างว่า แต่เดิมเมื่อชาติปางก่อน ท่านเป็นสตรี ถือกำเนิดเป็นพราหมณีบุตรี มารดาของนางเมื่อยังมีชีวิตอยู่ได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย ต่อเมื่อตายไป ดวงวิญญาณก็ได้ลงสู่นรกภูมิ ด้วยความกตัญญูของพราหมณีบุตรีที่ปรารถนาจะไถ่บาปให้แก่มารดา นางจึงเพียรสร้างบุญญาบารมี ทำบุญบริจาคทาน เพื่อส่งผลกุศลบุญไปให้แก่มารดา โดยตั้งจิตว่า แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ขอเพียงได้ช่วยมารดาก็ยินดี คำอธิษฐานของนางล่วงรู้ไปถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงชี้แนะให้นางเพียรสร้างกรรมดีอย่าละเลิก จนกระทั่งวันหนึ่ง พราหมณีบุตรีก็ได้นั่งสมาธิจนดวงวิญญาณได้ลงไปถึงนรกภูมิและทราบว่า กุศลผลบุญต่างๆ ที่ได้ทำไว้นั้น ช่วยส่งผลให้แก่วิญญาณของมารดาพ้นจากขุมนรกไปสู่สุคติแล้ว
ตั้งแต่นั้นมา พราหมณีบุตรีจึงตั้งจิตขอบำเพ็ญบุญญาบารมีสืบไปจนชั่วชีวิต จนกระทั้งในชาติต่อมาจึงได้กำเนิดมาเป็นองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์
ส่วนอีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า พระกษิติครรภโพธิสัตว์นั้น เดิมเป็นเจ้าชายนามว่า คิม เคียว กัก แห่งอาณาจักรชิลลา ได้ออกบวชเมื่ออายุ ๒๕ ปี โดยได้ออกเดินทางแสวงหาความสงบในป่าเขา จนกระทั่งถึงแถบที่ตั้งของภูเขาจิ่วหวาซานในประเทศจีน ได้ทรงเทศนาสั่งสอนประชาชนให้ตั่งมั่นทำแต่กรรมดีจนเป็นที่เลื่องลือและศรัทธาจากมหาชน กล่าวกันว่า ท่านได้ละสังขารเมื่ออายุ ๙๙ พรรษา และร่างนั้นก็อยู่ในท่าประทับนั่งสมาธิโดยไม่เน่าเปื่อย บรรดาชาวบ้านจึงพร้อมใจกันศรัทธาและสร้างวัดเพื่อบูชาพระองค์สืบไป โดยเรียกนามของพระองค์ว่า พระกษิติครรภโพธิสัตว์ หรือในภาษาเกาหลีเรียกว่า พระชีจัง
ในประเทศจีนเชื่อกันว่า พระกษิติครรภโพธิสัตว์สถิตอยู่ ณ เทือกเขาจิ่วหวาซาน ซึ่งเป็นหนึ่งใน ๔ ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานปัจจุบันเทือกเขาจิ่วหวาซานตั้งอยู่ในเขตอำเภอชิงหยาง มณฑลอานฮุย กล่าวกันว่า ณ เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ในอดีตนั้น เคยเป็นที่ตั้งของวัดวาอารามมากกว่า ๓๐๐ แห่ง และเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของพระพุทธศาสนาในประเทศจีนปัจจุบัน
อนึ่ง ในทางพุทธศิลป์ฝ่ายมหายานนั้น พระกษิติครรภโพธิ์สัตว์เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญที่นิยมสร้างเป็นประติมากรรมแบบองค์สาม โดยตั้งประดิษฐานเรียงกันคือ พระศากยมุนีพุทธเจ้าเป็นพระประธานที่อยู่กึ่งกลาง ทางเบื้องซ้ายเป็นพระอวโลกิเตศวร(กวนอิม) และเบื้องขวาเป็นพระกษิติครรภโพธิสัตว์ การจัดเรียงพระพุทธรูปแบบนั้น เรียกกันว่า ซวอผอซานเสิ้ง
คลิกฟังเสียง / ดาวน์โหลดเสียงพระธรรมเทศนา >>>เรื่อง 'พลีกถา' ว่าด้วยการบูชาสงเคราะห์
คลิกฟังเสียง / ดาวน์โหลดวีดิทัศน์พระธรรมเทศนา >>>เรื่อง 'พลีกถา' ว่าด้วยการบูชาสงเคราะห์
ภาพ / ข่าว : พระมหาผล วิเชฏฺฐสมโณ ผจล. วัดประยุรวงศาวาส วีดิทัศน์ : พระมหาสุรชัย สุรทสฺสี ผจล. วัดประยุรวงศาวาส ภาพ : น.ส.พ. ธรรมนำโลก
วัดประยุรวงศาวาส >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๕ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>6 ไฮไลต์ที่ต้องปักหมุดเที่ยว (ตามรอยบุพเพสันนิวาส ตอนที่ ๑) >>>บุพเพสันนิวาส ๒” ที่เปิดตัวแรงสุด ๆ (ตามรอยบุพเพสันนิวาส ตอนที่ ๒) >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์'วัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๕ >>>พิธีสมโภชวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ครบ ๑๙๔ ปี >>>พิธีทอดกฐินพระราชทาน วัดประยุรวงศาวาส ประจำปี ๒๕๖๔ >>>ประเพณีลอยกระทงประทีปเทียนหอม วัดประยูรฯ ประจำปี ๒๕๖๔ >>>ขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทงประทีปเทียนหอม วัดประยูรฯ ประจำปี ๒๕๖๓ >>>ขอเชิญร่วมทำบุญกฐินพระราชทานวัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๓ >>>พิธีบำเพ็ญกุศลตักบาตรเทโวโรหณะ วัดประยูรฯ ปี ๒๕๖๓ >>>ร่วมงานแถลงข่าว“River Festival 2020 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย”ครั้งที่ ๖ >>>๕ สมเด็จพระราชาคณะ ร่วมงานสมโภช ๑๙๒ ปี วัดประยูรฯ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๒ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>ขอเชิญร่วมงานส่งท้ายปีเก่า ๒๕๖๒ วิถีไทยต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๓ >>>ขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทง วัดประยูรฯ ประจำปี ๒๕๖๒ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์'วัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๒ >>>สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดอาคาร "สิริภักดีธรรม" >>>ขอเชิญร่วมงานส่งท้ายปีเก่า ๒๕๖๑ วิถีไทยต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๒ วิถีพุทธ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๑ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์'วัดประยุรวงศาวาส ปี ๒๕๖๑ >>>แถลงข่าวการจัดงานสงกรานต์ประจำปี ๒๕๖๑ Water Festival 2018 >>>๓ สมเด็จพระราชาคณะ ร่วมเจริญพระพุทธมนต์งานสมโภชวัดประยูรฯ ๑๙๐ ปี >>>เปิดงานสมโภช ๑๙๐ ปี วัดประยูรฯ อย่างอลังการ สืบสานวัฒนธรรมไทย >>>ขอเชิญเที่ยวงาน "สมโภช ๑๙๐ ปี วัดประยูรฯ" ฝั่งธน กรุงเทพฯ >>>งาน"วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ๑๘๙ ปี" >>>ขอเชิญเที่ยวงาน"สมโภช ๑๘๘ ปี วัดประยูรฯ"ปี ๒๕๕๙ >>>สมโภชพระอาราม ๑๘๘ ปี วัดประยูรฯ พ.ศ.๒๕๕๙ >>>๑๕ เมษายน"วันปีใหม่ วันเถลิงศก"วัดประยูรฯ ปี ๒๕๕๘ >>>ขอเชิญเที่ยวงาน'ประเพณีสงกรานต์ วัดประยูรฯ ๒๕๕๘ >>>WaterFestival ล่องเรือฟรี ๗ ท่าน้ำ วัดประยูร ฯ ๒๕๕๘ >>>เที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์ วัดประยูรฯ ๒๕๕๘ >>>เที่ยวสงกรานต์ ๒๕๕๘ วัดประยุรวงศาวาส >>>ขอเชิญเที่ยวงานฉลองวัด"ประยูรฯวัดรั้วเหล็ก"๑๘๗ ปี >>>รวมภาพบรรยากาศ งานฉลองรางวัลยูเนสโก ๒๕๕๗ >>>เจดีย์วัดประยุรวงศาวาสฯ มรดกทางวัฒนธรรม >>>เจดีย์มีแกนกลางแบบอยุธยาได้รับรางวัลที่ ๑ จากยูเนสโก >>>"เจดีย์พระประธาน"วัดประยูรฯ ชนะเลิศอนุรักษ์ >>>'เจดีย์พระประธาน' วัดประยูรฯ ชนะเลิศจากยูเนสโก >>>Award of Excellence >>>วัดประยุรวงศาวาสฯ คว้ารางวัล "ยูเนสโก" >>>"วัดประยุรวงศาวาส" ในสายตา UNESCO >>>พระบรมธาตุมหาเจดีย์ วัดประยุรวงศาวาส >>>มส. มอบของยังชีพแก่ผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนจอมทอง
เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 | อ่าน 1255 เขียนโดย วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร