พระปรากรมมุนี (เปลี่ยน)เป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสรูปที่ ๑๐ ครองวัดอยู่ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๔๕๔ รวม ๖ ปี
ชาติภูมิและการบรรพชาอุปสมบท
พระปรากรมมุนี (เปลี่ยน) เป็นบุตรจีนขำ นางอิ่ม บ้านอยู่ริมวัดสามจีนใต้ (วัดไตรมิตรวิทยาราม)กรุงเทพฯ เกิดในรัชกาลที่ ๓ เมื่อวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๓๘๘ ศึกษาอักขรสมัยเบื้องต้นในสำนักวัดปทุมคงคา เป็นศิษย์พระกลอน ได้บรรพชาเป็นสามเณร เล่าเรียนอยู่ในระหว่างนี้ ๗ ปีแล้วลาสิกขาไป ในวันจันทร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๑๑ ท่านได้รับการอุปสมบทที่วัดสามจีนใต้(วัดไตรมิตรวิทยาราม) มีพระสีลาจารย์พิพัฒน์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมจริยาภิรมย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระจันทสรเจ้าอาวาสวัดสามจีนใต้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมกับท่านอาจารย์ด้วง ๑๑ พรรษา
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๔๓๐ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูถาวรสมณวงศ์ พ.ศ. ๒๔๓๘ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นเป็นพระราชาคณะที่พระปรากรมมุนี
การปกครองคณะสงฆ์
ในปีขาล พ.ศ. ๒๔๒๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดสามจีนใต้(วัดไตรมิตรวิทยาราม) ในปีมะแม พ.ศ. ๒๔๓๘ ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก และเป็นคณะจังหวัดพิษณุโลกอีกด้วย หนึ่งปีต่อมาเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าคณะมณฑลพิษณุโลกและอยู่ในตำแหน่งนี้ ๘ ปี
พ.ศ. ๒๔๔๘ ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส และครองวัดนี้อยู่ ๖ ปี
พ.ศ. ๒๔๕๔ ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระบรมธาตุมหาเจดีย์
พระปรากรมมุนี(เปลี่ยน)พร้อมด้วยพระสงฆ์ในวัดประยุรวงศาวาสและทายกทายิกาทั้งปวงได้บูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์องค์เล็กรอบพระเจดีย์องค์ใหญ่ และซ่อมกำแพงรอบพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่ชำรุดกับปูพื้นในบริเวณชั้นล่างโดยรอบ จากนั้น ได้จัดงานฉลองพระเจดีย์และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์องค์ใหญ่ โดยพระครูสาราณียคุณ(ปุ่น)ขณะที่เป็นพระสมุห์ได้เขียนจารึกไว้ในกระดานชะนวนซึ่งถูกบรรจุไว้ในห้องเดียวกันกับพระบรมสารีริกธาตุว่า “พระสมุ่หปุ่น ได้จารึกพระธรรมประจุพระเจดีย์ ณ วันศุกร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ หลัง ปีมะแม ๑๒๖๙ พระพุทธศาสนา ๒๔๕๐ เป็นส่วนอดีต ๒๕๔๙ ส่วนอนาคต ขอให้เป็นปัจจัยแด่ พระวิริยาธิกโพธิญาณ ในอนาคตกาลเทอญ”
มรณภาพ
พระปรากรมมุนี(เปลี่ยน)ถึงมรณภาพที่วัดปทุมคงคา ใน พ.ศ. ๒๔๖๕ รวมอายุได้ ๗๗ ปี